Tuesday, July 08, 2025

ติดตามช้างเดือนกรกฎาคม 2568 พบช้างกลุ่มพังดอกรัก

 วันที่ 3 - 5 เดือนกรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ภาคสนามมูลนิธิฯ จ.ลำปาง ติดตามช้างปล่อยอิสระ บริเวณเขตพื้นที่ อ.แม่ทา จ.ลำพูน พบกลุ่มช้างพังดอกรัก พังวาเลนไทน์ พังทับเสลา โดยช้างมีร่างกายแข็งแรงดี











มาถึงแคมป์ 1 แม่ปอน

หลังจากวันที่ 27 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ภาคสนามมูลนิธิฯ ได้พาโอเลี้ยงไปที่ห้วยแม่ก๋วน วันที่ 1 กรกฎาคม 2568 สีดอโอเลี้ยงได้กลับมาที่แคมป์ 1 แล้ว

ผลักดันโอเลี้ยง

 วันที่ 28 มิถุนายน 2568 หลังสีดอโอเลี้ยงได้ออกนอกพื้นที่เจ้าหน้าที่ได้ผลักดันสีดอโอเลี้ยงกลับเข้าป่า จากอ่างเก็บน้ำทาสบเส้า มายังลำห้วยแม่ก๋วน แคมป์ 2 แม่ยาว





สีดอโอเลี้ยงออกเที่ยวไร่งามตา

วันที่ 26 มิถุนายน 2568 เจ้าหน้าที่ภาคสนามมูลนิธิฯ จ.ลำปาง ได้รับเเจ้งว่ามีช้างออกนอกพื้นที่ บริเวณไร่งามตา ใกล้อ่างเก็บน้ำแม่เส้า อ.แม่ทา จ.ลำพูน หลังเข้าตรวจสอบพื้นที่ พบสีดอโอเลี้ยงกำลังเล่น และแช่น้ำอยู่ในพื้นที่ เจ้าหน้าที่จึงได้ผลักดันช้างให้กลับเข้าป่า โดยในครั้งนี้สีดอโอเลี้ยงได้กินและทำลายต้นมะพร้าว ต้นเต่าร้าง  และต้นมะละกอ โดยครั้งนี้เจ้าของไร่ ไม่ได้คิดค่าเสียหายกับมูลนิธิฯ 








เฝ้าระวังบ้านวังเชื่อม

 วันที่ 7-8  กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ภาคสนามมูลนิธิฯ ประจำหน่วยที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา  ได้เฝ้าระวังช้างด้านบ้านวังเชื่อม พบมีรอยช้างใหญ่ คาดว่าเป็นสีดอสุทัศน์ ที่ตามโขลงพังพรธิตาออกมา 













Monday, July 07, 2025

ช้างออกที่บ้านน้ำลาด

วันที่ 6 กรกฎาคม 2568 เจ้าหน้าที่ภาคสนามหน่วยหนองใหญ่ ได้รับแจ้งจากชาวบ้านว่ามีรอยช้างออกมาที่ไร่มันที่ติดกับเขตป่าที่บ้านน้ำลาด จึงเข้าสอบพบว่าเสียหายเล็กน้อย และช้างได้กลับเข้าป่าแล้ว เจ้าหน้าที่จึงช่วยกันช่อมแซมรั้วที่เสียหาย






การเฝ้าระวังช้างด้านบ้านวังเชื่อม

คืนวันที่ 4 กรกฎาคม 2568  เจ้าหน้าที่พิทักษ์ป่าหน่วยเขารวก ซึ่งอยู่ทางตะวันตกของป่าซับลังกา ได้แจ้งว่า ช้างอาจจะข้ามมาผาไม้แก้วแล้วมาถึงด้านใต้ที่ที่ทำการเขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา ให้คอยเฝ้าระวัง เจ้าหน้าที่ภาคสนามมูลนิธิฯ และเจ้าหน้าที่เขตซับลังกาจึงช่วยกันเฝ้าระวังและได้จุดประทัดผลักดัน ซึ่งจากการสำรวจช่วงเช้า ชาวบ้านแจ้งว่ามีรอยช้างมาที่ไร่อ้อย เป็นรอยช้างวัยรุ่นเพียงตัวเดียว 
ต่อมาในคืนวันที่ 5 ก.ค. ช้างวัยรุ่นได้เข้ารวมโขลงกับโขลงพรธิตา ซึ่งได้ทำความเสียหายแก่ไร่อ้อยมากพอสมควร