Our Mission is to realize the vision of Her Majesty Queen Sirikit, The Queen Mother by reintroducing domesticated elephants into the wild, restoring wild habitats with indigenous plants and wildlife, researching and propagating knowledge about elephants and promoting appropriate management of elephants in Thailand for their long-term survival.
Website
▼
Tuesday, November 30, 2010
จากการติดตามพฤติกรรมช้างในโครงการคืนช้างสู่ป่าเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรี ของเจ้าหน้าที่ภาคสนามมูลนิธิคืนช้างสู่ธรรมชาติ ซึ่งประกอบด้วย นายพิทักษ์ เจริญอุดมสวัสดิ์ นายศุภชัย คีรีศรสกุลและนายอำพล เลิศดวงรัตนา พบว่าพังจารุณีช้างเพศเมีย อายุ 14 ปี มีการเปลี่ยนแปลงของร่างกายคือนมมีการขยายขนาดใหญ่ขึ้น หัวนมมีสีแดงขึ้น ซึ่งจากประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ภาคสนามทั้งสามคนที่เคยดูแลช้างมาคาดว่าพังจารุณีน่าจะเกิดการตั้งครรภ์(ท้องลูก) โดยขณะนี้ทั้งสามคนมีความมั่นใจประมาณ ๕๐ % เกี่ยวกับพังจารุณี
จากข้อมูลที่เก็บรวบรวมพบว่าเจ้าหน้าที่ภาคสนามทั้งสามคนเห็นร่องรอยการผสมพันธุ์ระหว่างพลายสมรักษ์และพังจารุณีเมื่อประมาณต้นเดือนตุลาคม 2552 ที่ผ่านมา จากประสบการณ์ที่ผ่านมาการจะดูการเปลี่ยนแปลงของช้างว่ามีการตั้งท้องหรือไม่นั้นต้องใช้เวลาอย่างน้อย 12 เดือน(สำหรับช้างที่เคยท้องมาแล้ว) ส่วนช้างสาวจะต้องใช้เวลา 12-14 เดือนเป็นอย่างน้อย โดยถ้าหลังจากนี้อีกประมาณ 4-5 เดือน นมของพังจารุณีมีการยุบลงแล้วใหญ่ขึ้นจนเห็นเป็นนมเด่นชัดกว่านี้ก็สามารถบอกได้ว่าพังจารุณีท้องแน่นอน
ในช่วงนี้เราก็สามารถรู้ได้จากการตรวจของสัตวแพทย์ โดยต้องทำการตรวจเลือดทุก ๆ เดือน จำนวน 4 เดือน ดูว่าพบฮอร์โมนที่บ่งบอกการเป็นสัดของช้างหรือไม่ (เนื่องจากช้างจะมีวงรอบการเป็นสัดทุก ๆ 4 เดือน) แต่ด้วยตั้งแต่พังจารุณีเข้าร่วมโครงการฯ ได้รับการปล่อยให้อยู่ตามธรรมชาติอย่างอิสระตลอดมา เราจึงไม่สามารถนำพังจารุณีมาตรวจเลือดได้
หลังจากนี้คงต้องใช้ความอดทนในการรอคอยอีกประมาณ 4-5 เดือน เราก็จะได้รู้กันแล้วว่าประสบการณ์ของเจ้าหน้าที่ภาคสนามประจำจังหวัดลพบุรีทั้งสามมีความแม่นยำมากน้อยเพียงไร และเราจะได้ลูกช้างป่าตัวแรกที่เกิดจากการปล่อยช้างบ้านตามโครงการคืนช้างสู่ป่าเฉลิมพระเกียรติ ๘๐ พรรษา เขตรักษาพันธุ์สัตว์ป่าซับลังกา จังหวัดลพบุรีหรือไม่
No comments:
Post a Comment